สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอมะนัง จังหวัดสตูล
ถ้ำเจ็ดคต
ถ้ำเจ็ดคต หรือ "ถ้ำสัตคูหา” ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 10 ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู ด้านทิศเหนือของน้ำตก วังสายทองห่างไปราว 2 กิโลเมตร ระยะห่างจากเขตเทศบาลตำบลกำแพง 38 กิโลเมตร เส้นทางไปมาสะดวก ลาดยางถึงบริเวณถ้ำ จึงเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอดปี ถ้ำเจ็ดคตมีความกว้าง 70 – 80 เมตร ยาวประมาณ 600 เมตร แบ่งออกเป็น 7 ช่วงหรือคูหา บางช่วงมีความสูงของเพดานถ้ำ 100 – 200 เมตร มีลำคลองไหลผ่านในถ้ำ คือ คลองมะนัง ต้นน้ำเกิดจากถ้ำโตน อยู่ทางเหนือของถ้ำป่าพน อำเภอมะนัง คลองมะนังไหลออกปากถ้ำไปบรรจบกับคลองละงู ซึ่งมีต้นน้ำเกิดจากภูเขาในจังหวัดตรัง ภายในถ้ำซึ่งแบ่งเป็น 7 ช่วง มีบรรยากาศแตกต่างกัน ลำคลองไหลไปตามความคดเคี้ยวของตัวถ้ำ สายน้ำจึงมีความตื้นลึกไม่เท่ากัน ในช่วงหน้าแล้ง น้ำลึกแค่ท่วมข้อเท้า เดินลุยไปได้อย่างสบาย บางตอนอาจลึกเกิน 5 เมตร ช่วงหน้าฝน น้ำหลาก จะเดินทางเข้าไปได้ค่อนข้างยาก นักท่องเที่ยวต้องเดินลัดเลาะไปตามริมผนังถ้ำ เดินลุยน้ำ บางตอนเป็นหาดทรายผสมกรวดบ้าง บางคูหามีพื้นที่เป็นโคลนเลนต้องระมัดระวังในการเดินเป็นพิเศษควรมีไฟฉายติดตัวไปด้วย บรรยากาศในถ้ำเงียบสงัด แทรกด้วยเสียงน้ำไหลสลับกับเสียงลุยน้ำและเสียงสนทนาจากผู้มาเยือนเป็นระยะ ๆ สิ่งที่เรียกเสียงอุทานด้วยความพึงพอใจจากนักท่องเที่ยวทั่วหน้าก็คือ ดวงตาวาววับล้อแสงไฟที่ส่องไปกระทบของกลุ่มค้างคาวที่เกาะตัวอยู่บนเพดานถ้ำ ดูราวกับกลุ่มดาวเคราะห์บนฟากฟ้าอันไกลโพ้น มีหินงอกหินย้อยอยู่ทั่วไป ก่อเกิดจินตนาการที่กว้างไกลแก่ผู้พบเห็น เมื่อเดินทางถึงคดสุดท้ายหรือคดที่เจ็ด มีลำแสงส่องจากปากถ้ำ เหมือนแสงแห่งชัยชนะมอบให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางถึงคูหาสุดท้ายใช้เวลาในการลัดเลาะไปตามผนังถ้ำลุยน้ำ
ชมธรรมชาติประมาณ 30 นาที
ถ้ำภูผาเพชร
ถ้ำภูผาเพชร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด มีเนื้อที่ภายในถ้ำกว่า 50 ไร่ เพดานถ้ำมีลักษณะสูงโปร่ง ภายในเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยหลากหลายรูปทรงซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่อยามแสงไฟกระทบกับหยดน้ำที่เกาะบนหินก็จะเกิดกายวาวแววสวยงามราวกับเพชร นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ "ถ้ำภูผาเพชร"
ผู้ค้นพบถ้ำแห่งนี้ คือ พระธุดงด์นามว่า "หลวงตาแผลง" จากนั้นได้มีนักโบราณคดีเข้าทำการสำรวจพบหลักฐานทางโบราณคดีเป็นกระดูกมนุษย์ยุคโบราณส่วนกระโหลกศรีษะ เศษภาชนะดินเผาเคลือบลายเชือกทาบ ที่ก้นภาชนะมีเปลือกหอยยึดเกาะ และอีกมากมาย ต่อมาจึงได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ที่มีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้
อ้างอิง http://hatyaiairportthai.com/th/popular-destinations/1555/%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%95-%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%A5
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ
ตอบลบเนื้อหาดีมากเลยค่ะ
ตอบลบOh, Satun Great !!
ตอบลบ